คุณกำลังพยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับหัวข้อการหาเงินออนไลน์หรือไม่? คุณกำลังมองหาหัวข้อที่เหมาะสม 5 เทคนิคอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น | The Secret Sauce EP.133 หรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้นโปรดอ่านบทความนี้ทันที.
Table of Contents
5 เทคนิคอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น | The Secret Sauce EP.133 | หนังสือภาษาอังกฤษ.
[button color=”primary” size=”small” link=”#” icon=”” target=”false” nofollow=”true”]ดูวิดีโอโดยละเอียดด้านล่าง[/button]
รูปภาพที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หนังสือภาษาอังกฤษ.
5 เทคนิคอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น | The Secret Sauce EP.133
เว็บไซต์มีซอฟต์แว, ดาวน์โหลดได้ที่นี่: https://brokengroundgame.com/share-and-download/.
ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ หนังสือภาษาอังกฤษ.
EP.127 ‘Kỹ thuật đọc’ -Phumchai Lời này thật hay ———————————————— PODCAST TIÊU CHUẨN: MỞ MẮT CHO TAI CỦA BẠN THEO CHUẨN Trang web: SoundCloud: Spotify: Twitter: Facebook : #Techniques để đọc sách tiếng Anh #TheSecretSauce #TheStandardPodcast #TheStandardCo #TheStandardTH..
เรา หวังว่าข้อมูลในบทความนี้จะมีคุณค่ามากสำหรับคุณ. ขอแสดงความนับถือ.
การค้นหาที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ5 เทคนิคอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น | The Secret Sauce EP.133.
หนังสือภาษาอังกฤษ
Podcast,The Standard Podcast,The Secret Sauce,เคน,นครินทร์,เคน นครินทร์,นครินทร์ วนกิจไพบูลย์,Brand,Business,เคล็ดลับความสำเร็จ,เทคนิคการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษ
5 เทคนิคอ่านหนังสือภาษาอังกฤษให้เก่งขึ้น | The Secret Sauce EP.133
#เทคนคอานหนงสอภาษาองกฤษใหเกงขน #Secret #Sauce #EP133
สำหรับปีหน้าคลิป The Secret Sauce จะย้ายไปลงที่ช่อง THE SECRET SAUCE ที่ https://bit.ly/tsschannel สามารถกดติดตามไว้ก่อน เพื่อไม่ให้พลาดเอพิโสดใหม่นะครับ
ขอบคุณครับ
หนังสือ pocket book ดีๆส่วนมาก ต้องรอการแปลเป็นภาษาไทย โดยเฉพาะ pocket book น่าสนใจบางเล่มสำนักพิมพ์ไม่ผลิตแล้ว(ภาษาไทย) เลยถูกเอามาซื้อขายเก็งกำไรในเว็บไซต์ราคาเป็นพัน เลยคิดว่าไปซื้อหนังสือเป้นภาษาอังกฤษอ่านยังดีกว่า แต่มันติดตรงที่ยาก ยาว หนา ….ขอบคุณคลิปดีๆไกด์แนะนำเทคนิคนี้นะครับ สุดยอดเลย
You are the best social media on line .every content it so good . This listing is open myself learning key topics how to read an English language a book. That's so good thankfully for your sharing .
กรุณาพูดให้ชัดชัดหน่อยค่ะขอบคุณมากค่ะชอบ
ดีจังค่ะ เอาประสบการณ์ดีๆมาเผยแพร่ คนจะได้ทำตามค่ะ เหมือนได้สอนน้องๆเลย ขอบคุณน้องเคนนะคะ
ทำเกี่ยวกับการอ่านหนังสือภาษาอังกฤษออกมาอีกได้ไหมครับ
อ่าน1หน้าซ้ำประมาณ3รอบค่ะ
รอบแรกไม่เปิดคำแปล ไม่รู้ติ๊กไว้
รอบสอง เปิดคำแปล และดูโครงสร้างประโยค
รอบสาม อ่านออกเสียงค่ะ
อันนี้ประสบการณ์ตรงน่ะคะ
เมื่อก่อนอ่านอิเมล หรือคู่มือที่คนตปท.ส่งมาให้ รู้สึกประหม่า ตื่น กลัวตลอด พอลองทำ3ข้อข้างต้น รู้สึกดี รู้ภาษาอ.ดีขึ้นค่ะ
Noice
That 's great ideas 5 secrets for reading english book see the detail below :
1. Read what we interested in
2. Read the children story
3. Read without the dictionary
4. Read the summary or the review first
5. Read out loud
💕
ก่อนเริ่มอ่าน ต้องฝึก Grammar ก่อนมั้ยครับ ถ้าต้อง ควรเรียนแกรมม่า ไหนก่อนครับ ช่วยตอบที ต้องการอยากอ่านหนังสือภาษาอังกฤษมากๆ #ขอบคุณมากครับ ใครรู้ช่วยตอบด้วยครับ
ดิฉันไม่รู้ภาษาอังกฤษเลยจะทำอย่างไรค่ะ
ชอบแนวนี้ครับ น่าฟังกว่าแนวสัมภาษณ์
กระเทียมธรรมชาติธัญญพงศ์ชัยพลับบลิคแบบเนี๊ยเเบบเเบบหวัดดีหญิงพนมกรแดดโดยเบื้องพรรณโช้คท่านฯเเบบ
ไม่ชอบ ดูซับ. เหมือนกัน
อยากให้มีนิตยสาร 2 ภาษา
ได้ความรู้เยอะเลยครับ ทําคลิปเกี่ยวกับภาษาอังกฤษอีกเยอะๆนะครับ
ชอบมากค่ะ
อือลองฟ้งพุทธวจนดูสิรู้ทุกเรื่องและก็เรื่องจริงๆด้วยรุ้ทุกๆอย่างที่คนเราควรจะเรียนรู้สนุกและก็ทันสมัยด้วยจ้าาา555คำของพระพุทธเจ้า. โทษทีน่ะไม่ว่ากันน่ะ
ขอบคุณนะครับ
บล
การอ่านออกเสียงสำหรับเราคือการได้ฟังสำเนียงตัวเองและปรับให้ออกมาชัดขึ้นและดีขึ้นค่ะ รวมถึงการที่ทำให้เรากล้าออกเสียงมากขึ้น ซึ่งรวมๆแล้วมันช่วยให้เราพูดแล้วติดขัดน้อยลงค่ะ อารมณ์แบบมั่นใจ ชั้นเคยพูดคำแบบนี้มาแล้ว
เคยอ่านออกเสียงตามครับ แต่กลายเป็นว่าหลุดเนื้อหาไปเลย ส่วนวิธีอื่นๆช่วยได้มากครับ ผมลองแล้ว การฝึกถอดเทปแบบไม่มี Subtitle นี่ช่วยแบบก้าวกระโดดเลย
ด้วยความโตมากับการ์ตูนญี่ปุ่น .. การ์ตูนแปลไทยมีน้อยมาก อยากอ่านการ์ตูนที่เราชอบ เลยหาในเน็ต อ่านออนไลน์ และมันมีหลากหลายให้เราเลือกอ่านเยอะ ที่มันไม่มีแปลไทยด้วย แรกๆอ่านไปเปิดดิกชั่นนารีไปด้วย หลังๆมา เริ่มเดา เป็นประโยค เริ่มสนุกกับมัน อ่านทุกวัน ..จนเริ่มขยับมาอ่านนิยายeng เรื่องแรกที่อ่านนิยายeng คือ love,rosie อ่านง่าย สนุกด้วย และตามด้วยเรื่อง me before you เรื่องนี้ใช้เวลาอ่าน4วัน แรกๆก็จะอ่านบ้างวางบ้างมาช่วงกลางๆเรื่องเริ่มสนุกวางไม่ลง เรื่องนี้ร้องไห้เป็นวักเป็นเวร ..เราไม่ได้เข้าใจทุกตัวอักษร ทุกคำ แค่เดารูปประโยค มีคำที่ไม่รู้ความหมายเยอะ แต่จะเลือกเปิดดิกเฉพาะบางคำที่้เจอบ่อยๆ..
ผมเพิ่ง ติดตาม ได้ซักพัก ครับ
ตอนนี้ ผมฝึกภาษา อังกฤษ
พูด อ่าน เขียน ครับ
ทำไปเรื่อยๆ ทำยังไงก้ได้ให้สม่ำเสมอ อ่านก็ไม่ต่างจากการฝึกฟังครับ
ขอบคุณมากค่ะกับเทคนิคดีๆที่นำมาฝากในวันนี้🙏🙏🙏❤️❤️❤️🍀🍀🍀
อยากแชร์ประสบการณ์ของตัวเองเล็กน้อยค่ะ
อ่านหนังสือเด็กๆค่ะเริ่มอ่านไปกับลูก
ดูหนัง, ฟังเพลงภาษาอังกฤษ
เมื่อก่อนดูข่าวของ CNN, BBC
ดูทอล์คโชว์ของต่างประเทศบ่อยๆ😁
พูดอาจจะไม่เก่งเพราะว่าสำเนียงไม่ได้เลยค่ะ555มาฝึกตอนแก่ก็แบบนี้แหละ
แต่พอจะฟังและสื่อสารกับคนต่างชาติได้บ้าง
สอนลูกให้เก่งหลายๆภาษาดีกว่าเรา
แค่นี้ก็ถือว่าประสบความสำเร็จไปเรื่องหนึ่ง
เวลาวันเกิดใครจะให้ของขวัญก็อาจจะบอกตรงๆว่าอยากได้หนังสือสักเล่มเป็นภาษาอังกฤษ เล่มนี้นะคะ555
สักวันก็จะอ่านเก่งขึ้น
เล่มล่าสุดที่ได้มาคือ Becoming ของMichelle Obama
กับ The courage to be disliked
ของ Ichiro Kichimi and Fumitake Koga
เป็นหนังสือดีที่น่าอ่านทั้งสองเล่มค่ะ
👍😁😍❤️🍀
ชอบบทสรุปครับ
ประยุทธ์แนะนำคนไทยสิ่งนี้
ฟังแล้วรู้เลยว่าวินัยและความพยายามสำคัญมาก + Mindset ว่าเราทำได้… เพราะงานที่ทำก็ใช้ภาษาอังกฤษ แต่ยังพูดได้ไม่เป็นที่พอใจ… ฟังแล้วมีกำลังใจและทำตามทันทีค่ะ
แล้วถ้าเรื่องที่ผมชอบและอยากอ่านมันเป็นหนังสือที่ยากแล้วก็ภาษาที่ยากละคับ เช่น นิยายวิทยาศาตร์ มันจะเป็นไปได้มั้ยคับ
Google play book อ่านง่ายดีครับ
ขอบคุณค่ะลองทำมาแล้วภาษาดีขึ้นจริงค่ะแต่ส่วนตัวต้องดูหลายๆรอบค่ะ
ผมคนนึงละที่ไม่เคยเรียนในห้อง แต่สื่อสารกับฝรั่งรู้เรื่องเพราะสนใจและบ้ากับมัน ถ้าคุณชอบสิ่งไหนแล้วคุณเอาจริงเอาจังชนิดบ้าไม่เลิกรับรองคุณอยากเป็นอะไรชอบอะไรทำอะไรจะทำได้เหนือคนอื่น เพราะฝรั่งบอกว่าอัจฉริยะสร้างได้ใน10,000ชั่วโมง คุณเริ่มทำอะไรก็แล้วแต่ทำแค่5000ชั่วโมงคุณก็สุดยอดในเรื่องนั้นๆแล้ว
ผมฝึกโดยการเล่นเกมส์แนวRPG
ขอบคุณมากๆสำหรับเทคนิดดีๆนะครับ ส่วนตัวของผมก็มีเทคนิคคล้ายๆกันครับ
1. ตอนเด็กๆชอบเล่นเกมส์ แล้วอยากรู้เนื้อเรื่องก็เลยเริ่มจากเล่นเกมส์แล้วค่อยๆแปลไป กับ ดูหนังครับ ดูเรื่องที่ชอบ ดูซ้ำๆจนจำเนื้อเรื่องได้ แล้วเปลี่ยนจากซับไทยเป็นซับ Eng ครับ เห็นด้วยกับเรื่องเทคนิดข้อที่ 1.,3.4.5 มากๆครับ
ดิฉันฟังเพลงค่ะ ตั้งแต่ อายุ 11 ขวบค่ะ
เริ่มตอน 2.40
เริ่มตอน 2.40
ผมเเนะนำให้ศึกษาเรื่องนี้เพิ่มด้วยนะครับสำหรับคนที่ต้องการพัฒนาไปอีกขั้นของการอ่านหรือเรื่องต่างๆในด้านของภาษา: Cultural Iceberg : เรื่องนี้สำคัญพอๆกับว่าเราอ่าน ฟัง ดู เเล้วเข้าใจมันมากแค่ไหน บางทีเราอ่าน ดู ฟัง จนเข้าใจเนื้อเรื่องทั้งหมดเเล้วเเต่พอไปถามเจ้าของภาษาทำไมเขากลับบอกว่าเราเข้าใจเรื่องนั้นผิดประเด็น บางความหมายอาจเปลี่ยนไปเลยก็ได้ครับ
เป็นคำแนะนำที่ดีมากครับ แต่ขอเสริมครับ ว่าเราต้องประเมินทักษะของภาษาของเราก่อน หากเรารู้ว่าเรามีพื้นอยู่ที่ไหน เราจะได้เลือกได้เหมาะสม จากประสบการณ์ของผมในการเป็นครู นักเรียนหลายคนมีความตั้งใจดีมาก แต่แค่ไม่รู้ว่าตัวเองจะเริ่มที่ไหน ผมเลยแนะนำให้ลองเริ่มอ่านจาก อ่านหนังสือที่ออกแบบให้นักเรียน ESL ครับ น่าจะเรียกว่า Readers ถ้าจำไม่ผิดนะครับ มีหลายค่าย มี 6 ระดับ ลองอ่านแต่ละระดับถ้าเข้าใจ 65% ให้อ่านระดับถัดไป เมื่อเจอระดับที่เหมาะแล้ว อ่านอย่างน้อยสามเรื่อง แล้วอ่านระดับถัดไป เมื่อถึงระดับหกแล้ว แสดงว่ามีความพร้อมในระดับหนึ่งในการอ่านหนังสือปกติ แต่อย่าเพิ่งครับ มีอีกระดับที่เรียกว่า Young Readers' Editions อ่านสักสามเรื่อง หลังจากนั้นน่าจะพร้อมแล้วครับ และท้ายสุด อันนี้ส่วนตัวเลยครับ ผมเป็นคนอ่านช้า แต่ฟัง audio book ได้เร็วกว่าและเข้าใจดีกว่า เลยแอบขี้เกียจอ่านหนังสือปกติ มีข้อดีคือ เราได้ฝึกทักษะการฟังและการออกเสียง แต่ข้อเสียคือ เราจะไม่ได้ฝึกการอ่านหรือโครงสร้างประโยคที่ซับซ้อน แลกเปลี่ยนกันนะครับ
อ่าน apple book อยุ่คับ แต่ศัพทยาก ทำให้อาานไม่รุ้เรื่องและน่าเบื่อ เช่น parson, thud, catheter, squawk, scruff
1 หน้าเปิดไป 20 คำ
แนะนำใช้ kindle ในการอ่านครับ
เพราะว่าคำศัพท์ที่ยาก จะคำแปลมาให้ครับ
เทคนิคที่ว่ามาทำหมดเลย แต่ช่วงหลังขาดความสม่ำเสมอ เชื่อว่ามีหลายคนเป็นเหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากนะคะ
อ่านให้หลากหลายประเภทของหนังสือ เพราะเราจะได้คำศัพท์เยอะ อ่านทุกวันวันอย่างน้อย30นาทีต่อวัน ถ้าจะใช้dictionary ให้ใช้ อังกฤษ-อังกฤษจะดีมาก และอ่านออกเสียงดังๆ แต่ต้องระวังด้วยว่าเรารู้วิธีการออกเสียงคำๆนั้นแล้ว
มีเทคนิคการตีความมั้ยคะ พอดีว่า เวลาอ่านมักจะตีความผิดบ่อย ๆ เลยขอรบกวนช่วยแชร์เทคนิคตีความหน่อยนะคะ 😊
ผมอ่านหนังสือนิทานเด็กของ Se-ed ครับ มีหลายระดับตั้งแต่ 1-5 ถ้าจำไม่ผิดนะครับ ตอนแรกผมไม่มั่นใจว่าจะอ่านได้ไหม แต่หนังสือของเค้ามีคำศัพท์อยู่ด้านข้าง เวลาเราไม่รู้คำไหนแวะมองไปเลยแปปเดียว แล้วกลับมาโฟกัสที่การอ่านต่อ คือเป็นหนังสือที่ดีมากๆ มีแผ่นซีดีให้ด้วย ช่วยเพิ่มทักษะในการฟังไปอีก ผมเลือกหนังสือเชอร์ล็อคโฮล์มครับ เพราะชอบมาก ลองอ่านไป เฮ้ย เราอ่านได้อ่ะ คำไหนไม่รู้ก็ค่อยแวะไปดูบ้านข้าง มันทำให้การอ่านไหลลื่นอย่างมาก พออ่านไปสักพัก เราจะมั่นใจมากขึ้นว่า เราก็เข้าใจภาษาอังกฤษมากขึ้น และมันไม่ได้ยากเลย แต่มันอยู่ที่ว่าคุณจะทำมันจริงๆจังๆหรือเปล่า ผมเป็นคนฝึกภาษาอังกฤษด้วยตัวเองนะครับ ผมฝึกทุกวัน ในแต่ละวันผมมีความสุขที่ได้ฝึกภาษา อ่านบ้างฟังบ้างพูดบ้าง สำเนียงก็ไม่ได้ดีครับ แต่ที่สำคัญผมทำทุกวัน !!! ตอนนี้ผ้่านไป 2 เดือนแล้วครับ ผมรู้สึกว่าผมเก่งจริงๆ และใครอยากเก่งต้องลงมือทำเลยครับ ทุกคนทำได้แน่นอน เป็นกำลังใจให้ทุกคนครับ 🙂
ถ้ารีวิวขอรีวิวหนังสือภาษาอังกฤษนะครับ