เรื่องนี้มีอยู่ว่า : วังปารุสวัน (1) | การเขียนโปรแกรมการเรียนรู้ด้วยตนเอง ที่เว็บไซต์

สมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กับสมเด็จพระศรีพัชรินทราบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และเป็นพระราชอนุชาร่วมพระบรมราชชนนีกับพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว

หลังทรงสำเร็จการศึกษาจากประเทศรัสเซียแล้ว ได้เสด็จนิวัตประเทศสยามเพื่อรับราชการสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรมชนกนาถ และสมเด็จพระบรมเชษฐาธิราช โดยทรงประกอบพระกรณียกิจอันเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติหลายประการ อาทิ ทรงวางแนวทางการศึกษาทางทหาร ให้มีความเจริญก้าวหน้าทัดเทียมกับนานาอารยประเทศ ครั้นเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ ๑ ก็ได้ทรงอำนวยการจัดส่งทหารอาสาไปร่วมรบ ณ สมรภูมิทวีปยุโรป และยังทรงวางรากฐานด้านการบินของประเทศสยาม ตามพระบรมราโชบายในรัชกาลที่ ๖ อันเป็นปฐมบทของกองทัพอากาศในเวลาต่อมา

นอกจากนี้ ยังทรงเป็นผู้อำนวยการก่อสร้างโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ต่อจากพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงนครไชยศรีสุรเดช จนแล้วเสร็จ ทั้งยังทรงดำรงตำแหน่งอุปนายกสภากาชาดสยามพระองค์แรกอีกด้วย

ในพุทธศักราช ๒๔๖๓ สมเด็จพระอนุชาธิราชฯ ได้กราบถวายบังคมลาเพื่อเสด็จประพาสทะเลทางฝั่งตะวันตก แต่ระหว่างทาง มีพระอาการประชวรไข้หวัดใหญ่กะทันหัน ครั้นถึงสิงคโปร์ พระโรครุนแรงถึงขั้นพระปับผาสะเป็นพิษ จนกระทั่งเสด็จทิวงคต เมื่อวันที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๔๖๓

มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เชิญพระศพสมเด็จพระอนุชาธิราชฯ จากสิงคโปร์กลับคืนกรุงเทพมหานคร ประดิษฐานพระศพ ณ วังปารุสกวัน และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระบรมวงศานุวงศ์ ตลอดจนข้าราชการในพระราชสำนัก ไว้ทุกข์เป็นเวลา ๑๐๐ วัน จัดการพระศพถวายพระเกียรติยศตามราชประเพณีทุกประการ

การสูญเสีย “พระราชโสทรานุชาธิบดี” อย่างกะทันหัน ทำให้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระโทมนัสโศกาดูรยิ่ง ทรงพระราชนิพนธ์อาลัยต่อการเสด็จทิวงคตของสมเด็จพระอนุชาธิราช เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ ความตอนหนึ่งว่า

"…นอกจากเธอเป็นน้องที่ข้าพเจ้ารักมากที่สุด เธอยังได้เป็นที่ปรึกษาและผู้ช่วยราชการอย่างดีที่สุดหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ โดยเหตุที่ข้าพเจ้าเป็นผู้มีอายุมากกว่าเธอ ข้าพเจ้าจึงได้เคยหวังอยู่ว่าจะได้อาศัยกำลังของเธอต่อไปจนตลอดชีวิตของข้าพเจ้า ฉะนั้น เมื่อเธอได้มาสิ้นชีวิตลงโดยด่วนในเมื่อมีอายุยังน้อย ข้าพเจ้าจะมีความเศร้าโศกอาลัยปานใด ขอท่านผู้ที่ได้เคยเสียพี่น้องและศุภมิตรผู้สนิทชิดใจจงตรองเองเถิด

ข้าพเจ้ากล่าวโดยย่อๆ แต่เพียงว่าข้าพเจ้ารู้สึกตรงกับความที่สมเด็จกรมพระปรมานุชิตชิโนรส ได้ทรงไว้ในตะเลงพ่ายว่า ‘ถนัดดั่งพาหาเหี้ยน หั่นให้ไกลองค์’…"

ตำรวจโคตรมั่วเลย

ที่วังนี้ไม่ได้คืนเนื่องจากรัชกาลที่ 6 ทรงมีพระบรมราชโองการยับยั้งพินัยกรรมของของสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์พระอนุชาเนื่องจากได้เขียนพินัยกรรมยกทรัพย์สินทั้งหมดให้อยู่ในความดูแลของหม่อมเจ้าหญิงชวลิตโอภาส ซึ่งทรงเห็นว่าไม่ยุติธรรมกับพระองค์เจ้าจุลจักรพงษ์จากนั้นก็เวรวังปารุสกวันคืนแก่สำนักทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ด้วย ต่อมาเมื่อเปลี่ยนแปลงการปกครองก็ได้ใช้ที่นั่นเป็นที่ของกรมตำรวจ///พูดง่ายๆคือมันถูกยึดมาตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 6 แล้ว

น่าอัปยศที่สูด คณะราษฎร์ยืดท่านมาแบบหน้าด้านๆ สำนักงานตำรวจทำไม่ไม่คืนทายาทเขาไป ข้าวของเครื่องใช้ในวังหายไปไหนหมด

ขอขอบคุณครับผม

วังปารุส ของ จอมพลฯสมเด็จเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ ส่วนวังบางขุนพรหมเป็นวังของจอมพลฯสมเด็จเจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ ร.5 ใช้พระราชทรัพย์ส่วนพระองค์สร้างให้พระโอรสทั้งสองเมื่อเรียนสำเร็จจากต่างประเทศกลับมา สมัยปฏิวัติ2575พวกคณะราษฎร์ยึดไปอย่างหน้าด้านๆมาก

จะเอาไว้ประเคนให้นางในไหนอีกละ

เอาใว้ให้อีตั้น1700

แปลกนะไม่คืนเจ้าของ…

รัฐบาล มึง. เขาปล้นมา. ประวัติก็บอกชัดเจนว่าท่านสร้างให้ลูกชาย. ทำไมไม่คืนให้ญาติเค้า.

3:34 ลืมคำว่า พระบาท นำหน้านะครับ.