ศิลปะแบบเอ็กซ์เพรสชันนิสม์คืออะไร? | picasso ผลงาน | คอลเลกชัน เคล็ดลับ มประสิทธิภาพสูงสุด

Aค่ะ

ขอบคุณที่ทำคลีปให้ได้ความรู้ครับๆๆๆๆๆ

B~

นี่แหละครับอาจารสุดยอดจริงกระจ่างเลย

อยากไปเรียนเมืองนอกวะ

เพลินมากค่ะ ขออนุญาตสรุปเพิ่มเติมระหว่าง Die Brücke กับ Der Blaue Reiter แล้วก็ส่วนอื่นเพิ่มเติมด้วยนะคะ

Die Brücke :
– การเคลื่อนไหวของเยอรมันที่ Kincher ถูกมองว่าเป็นผู้นำของขบวนการ และมีความตั้งใจที่จะรวมองค์ประกอบการปฏิวัติทั้งหมดในงานศิลปะไว้ในการเคลื่อนไหวเดียว โดยมีวิสัยทัศน์และสไตล์เป็นของตนเอง
– ผลงานทั้งหมดในงานศิลปะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกัน ( Emil Nolde, Ernst Barlach )

Der Blaue Reiter :
– ถูกนำโดย Kandinsky พร้อมกับศิลปินรุ่นใหม่ เป็นการเคลื่อนไหวที่รวบรวมงานทางศิลปะของศิลปินหลายๆคน ที่ต้องการให้เห็นถึงความหลายหลายในศิลปะ ( Artists who want to express their inner needs) หรือการเคลื่อนไหวทางจิตวิญญาณ (Spiritual movements) ของศิลปินที่มีความต้องการแสดงเสรีภาพในการสร้างสรรค์ผลงาน
– สไตล์ของศิลปิน Der Blaue Reiter แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่พวกเขามีเหมือนกันคือ ‘การใช้สี’ ที่เป็นวิธีการแสดงออกที่สำคัญที่สุด ( August Macke, Franz Marc, Paul Klee )
– สงครามโลกทำให้กิจกรรมทั้งหมดสิ้นสุดลง Marc และ Macke เสียชีวิตในสงคราม ส่วน Kandinsky และ Klee พบกันอีกครั้งที่ Bauhaus หลังสงคราม

*อิทธิพลของสงครามโลก :
– หลังจากสงครามโลกศิลปินหลายคนต้องการที่จะถ่ายถอดประสบการณ์ในงานศิลปะ ( Otto Dix, George Grose และ Max Beckmann,..) ผลงานเริ่มแสดงให้เห็นถึงความเป็นจริงโดยตรง ความทุกข์และความเจ็บปวดมักปรากฏอยู่ในผลงาน ซึ่งศิลปะเป็นการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอย่างมากในช่วงหลังสงคราม
– ( Otto Dix ต่อสู้ในสนามระหว่าง WOl สิ่งนี้ทำให้เขาต่อต้านทหารอย่างรุนแรงหลังสงคราม เขาได้สร้างภาพสลัก "Der Krieg" ที่มีการแกะสลัก 50 ชิ้นเกี่ยวกับความน่ากลัวของสงครามขึ้นมา ซึ่งเขาต้องการที่จะให้ข้อความที่ชัดเจนว่าจะไม่ควรที่จะมีสงครามขึ้นมาอีก เช่นเดียวกันกับ George Grose แต่หลังจากสงครามผลงานของเขาถูกฟ้องในเยอรมันเนืองจากผลงานของเขาเป็นการวิพากษ์วิจารณ์สังคมในช่วงหลังสงครามในเยอรมัน )

*Entartete Kunst ( ศิลปะเสื่อม ) :
– ศิลปะเปลี่ยนไปเมื่อนาซีมีอำนาจ (1933)
– ฮิตเลอร์ให้ความสำคัญกับงานศิลปะมากและเชื่อว่าศิลปะทั้งหมดนั้นมีหน้าที่ทางการเมือง แถมรัฐบาลมีส่วนกำหนดของงานศิลปะเช่นกัน ศิลปินต้องลงทะเบียนกับ Reichskulturkammers (สถาบันที่ดำเนินการโดยรัฐและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงโฆษณาชวนเชื่อ Joseph Goebbels) จึงจะได้รับอนุญาตให้ทำงานได้
– คนที่ไม่ได้เป็นสมาชิก Reichskulturkammers จะถูกห้ามไม่ให้ประกอบวิชาชีพ
– คำนี้ถูกใช้โดยระบอบนาซีในเยลมันเพื่ออธิบายเกี่ยวกับศิลปะสมัยใหม่ เนื่องจากผลงานไม่ได้แสดงถึงสังคมและวิธีชีวิตของชาวเยอรมันในอุดมคติ หรือเพราะสร้างโดยศิลปินยาวยิว
– ฮิตเลอร์คิดว่าศิลปะสมัยใหม่นั้นไร้ความสามารถและเสื่อมโทรมมาก ในปี1937ได้มีการตัดสินใจจัดนิทรรศการเพื่อแสดง "ศิลปะที่ถูกต้อง" ของพวกนาซี ในขณะเดียวกันก็มีการจัดนิทรรศการเพื่อแสดงศิลปะ "เสื่อม" เจตนาคือการเยาะเย้ยงานศิลปะและศิลปินอีกด้วยเช่นกัน
– ชื่อของนิทรรศการนี้กลายเป็น "Entartete" kunst" นิทรรศการนี้จัดทำโดย Adolf Ziegler ศิลปินและนักการเมืองชาวเยอรมัน เขาแนะนำด้วยผลงาน "เสื่อม" จากคอลเล็กชันศิลปะของรัฐ เขามุ่งเน้นไปที่ผลงานที่แสดงให้เห็นถึงความเสื่อมโทรมปัญหาทางจิตใจ,ความสกปรกทางเชื้อชาติและความอ่อนแอของผลงานศิลปะนั้น มีการนำผลงานไปแสดงในทางที่ไม่ดีโดยเจตนา มีแสงน้อยเกินไปมีระยะห่างน้อยเกินไปในการดูผลงานและงานแขวนอยู่ใกล้กันเกินไป ผลงานนี้มีคำขวัญของนาซีและข้อความต่อต้านศิลปะสมัยใหม่ บ่อยครั้งที่มีการแขวนภาพไว้ข้างๆผลงานเช่นคนพิการเพื่อล้อเลียนผลงานนั้น แต่แกลเลอรีต่างประเทศก็แสดงความสนใจในผลงานนี้ เป็นผลให้พวกนาซีตระหนักว่าผลงานนั้นมีคุณค่าอย่างแน่นอนและเริ่มขายโดยเก็บเป็นเป็นความลับ ผลงานที่ขายไม่ออกถูกทำลายทิ้ง
– นอกจากนี้ Grosse Deutsche Kunstaustellung ยังจัดขึ้นในเวลาเดียวกับนิทรรศการศิลปะเอนเทอร์เตเต นี่คือนิทรรศการที่จัดแสดงผลงานศิลปะที่ "ถูกต้อง" ตามแบบนาซี ถูกคัดเลือกโดย Goebbels กับ Hitler และ Heinrich Hoffmann คนที่ทำโฆษณาชวนเชื่อของพรรคสำหรับ NSDAP แต่ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกคณะลูกขุนเพียงคนเดียว ซึ่งพวกเขาไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับศิลปะแต่พวกเขากลับเปิดนิทรรศการ นิทรรศการนี้กลายเป็นที่รวมของนักวิชาการที่อนุรักษ์นิยม มีการแสดงทิวทัศน์ที่เหมือนจริงภาพวาดประวัติศาสตร์ภาพบุคคลและสิ่งมีชีวิต ส่วนที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งของนิทรรศการประกอบด้วยการโฆษณาชวนเชื่อที่เชิดชู Füehrer หรืองานเลี้ยง

B

เกรียดอ้ะอีป้าเวลามึงตัดหน้าตัวเองเข้ามาทำแบ๊ว ทำรำอีสัดเอ้ย

ทำไมมึงต้องรำด้วยอีป้า ดูสกปกอ่ะ

Dถวัลดัชนี

ตอนเรียน เหมือน วินเซ็นต์ อ. บอกว่า ยังเป็น นีโออิมเพลส อยู่ครับ ไม่ถึง เอ็กซ์เพลส แต่ที่น่าสนใจ คือ พอศึกษา ด้วยตนเอง ลึกลงไป รอยเชื่อมต่อของยุค ลัทธิต่างๆ น่าสนใจมากครับ

อยากให้ทำคลิปเกี่ยวกับ contemporary art บ้างครับ ช่วงนี้ MOCA คนไปเยอะมากเลย

Sociology Anthopology

อยากให้พูดถึง surrealism ให้ฟังด้วยครับ ขอบคุณครับ

ขอบคุณมากครับ
ทำให้เข้าใจศิลปะมากขึ้น
💐💐💐😊😊😊💖💖💖

B ตอนเรียน ไม่เคยเข้าใจ

อ.ถวัลย์ ดักชะนี รักมาก 🙂

B ชอบมากครับ

ชอบคำว่าพระประธานกับพ่อใหญ่ค่ะ เห็นภาพเลย 😂😂😂👍✨✨✨

A

ชอบที่มีบอกปีของภาพค่ะ

รู้สึกเหมือนเพลงประกอบในคลิปนี้จะเพลงเดียวกับเซ็ทที่เปิดในนิทรรศการตรง River City เลยค่ะ

a

B ครับ